เรื่องราวของ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ที่ก่อนจะมาเป็นทีมยอดนิยมในปัจจุบัน

เรื่องราวของ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ที่ก่อนจะมาเป็นทีมยอดนิยมในปัจจุบัน

ประวัติ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล 

พูดถึงเรื่องราวของ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล มีฉายาว่า The Reds และฉายาในไทยชื่อว่า หงส์แดง โดยแรกเริ่มเป็นสโมสรเอฟเวอร์ตันแต่ด้วยปัญหาภายใน ทำให้แยกตัวออกมาแต่ใช้ชื่อสนามเดิมและส่งเรื่องเพื่อเปลี่ยนชื่อเป็น ลิเวอร์พูล และใช้มาจนถึงปัจจุบัน LIVERPOOL เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่อยู่ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษแข่งขันอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรก่อตั้งใน ค.ศ. 1892 ได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกในปีต่อมาและใช้สนาม แอนฟีลด์ เป็นสนามเหย้าตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร จนถึงปัจจุบัน และเรื่องราวต่อจากจุดนี้จะเป็นเช่นไร footballnews89 จะมาเล่าให้ทุกคนได้ฟัง

ผู้จัดการทีม อดีต – ปัจจุบัน

ผู้จัดการทีม อดีต - ปัจจุบัน
  • วิลเลียม เอ็ดเวิร์ด บาร์คเลย์ และ จอห์น แม็คเคนนา (ผู้จัดการทีมร่วม) ทั้งคู่เป็นชาวไอร์แลนด์ คุมทีมตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 1892 ถึง 16 สิงหาคม 1896 พาทีมลงสนาม 127 นัด ชนะ 77 เสมอ 20 แพ้ 30 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันสอง 3 สมัย
  • ทอม วัตสัน เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 17 สิงหาคม 1896 ถึง 6 พฤษภาคม 1915 พาทีมลงสนาม 742 นัด ชนะ 329 เสมอ 141 แพ้ 272 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 2 สมัย และดิวิชั่นสอง 1 สมัย
  • เดวิด แอชเวิร์ธ เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 18 ธันวาคม 1919 ถึง 12 กุมภาพันธ์ 1923 พาทีมลงสนาม 139 นัด ชนะ 70 เสมอ 40 แพ้ 29 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 1 สมัย
  • แม็ต แม็คควีน เป็นผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ คุมทีมตั้งแต่ 13 กุมภาพันธ์ 1923 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 1928 พาทีมลงสนาม 229 นัด ชนะ 93 เสมอ 60 แพ้ 76 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 1 สมัย
  • จอร์จ แพ็ตเธอร์สัน เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 7 มีนาคม 1926 ถึง 6 สิงหาคม 1936 พาทีมลงสนาม 366 นัด ชนะ 137 เสมอ 85 แพ้ 144 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ –
  • จอร์จ เคย์ เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 6 สิงหาคม 1936 ถึง มกราคม 1951 พาทีมลงสนาม 357 นัด ชนะ 142 เสมอ 93 แพ้ 122 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 1 สมัย
  • ดอน เวลช์ เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 23 มีนาคม 1951 ถึง 4 พฤษภาคม 1956 พาทีมลงสนาม 232 นัด ชนะ 81 เสมอ 58 แพ้ 93 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ –
  • ฟิล เทเลอร์ เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 5 พฤษภาคม 1956 ถึง 17 พฤศจิกายน 1959 พาทีมลงสนาม 150 นัด ชนะ 76 เสมอ 32 แพ้ 42 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ –
  • บิลล์ แชงคลี เป็นผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ คุมทีมตั้งแต่ 1 ธันวาคม 1959 ถึง 12 กรกฎาคม 1974 พาทีมลงสนาม 783 นัด ชนะ 407 เสมอ 198 แพ้ 178 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 3 สมัย, ดิวิชั่นสอง 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย และยูฟ่ายูโรป้า ลีก 1 สมัย
  • บ็อบ เพสลีย์ เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 26 สิงหาคม 1974 ถึง 1 กรกฎาคม 1983 พาทีมลงสนาม 535 นัด ชนะ 307 เสมอ 132 แพ้ 96 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 6 สมัย, อีเอฟแอล คัพ 3 สมัย, คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย, ยูฟ่ายูโรป้า ลีก 1 สมัย และยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ 1 สมัย
  • โจ เฟแกน เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 1983 ถึง 28 พฤษภาคม 1985 พาทีมลงสนาม 131 นัด ชนะ 70 เสมอ 37 แพ้ 24 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 1 สมัย, อีเอฟแอล คัพ 1 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย
  • เคนนี่ ดัลกลิช เป็นผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ คุมทีมตั้งแต่ 30 พฤษภาคม 1985 ถึง 21 กุมภาพันธ์ 1991 พาทีมลงสนาม 307 นัด ชนะ 187 เสมอ 78 แพ้ 42 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง 3 สมัย,เอฟเอ คัพ 2 สมัย และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 4 สมัย
  • รอนนี่ โมแรน(ผู้จัดการทีมชั่วคราว) เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ 1991 ถึง 15 เมษายน 1991 พาทีมลงสนาม 10 นัด ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 5 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ –
  • แกรม ซูเนสส์ เป็นผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ คุมทีมตั้งแต่ 16 เมษายน 1991 ถึง 28 มกราคม 1994 พาทีมลงสนาม 157 นัด ชนะ 65 เสมอ 47 แพ้ 45 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ 1 สมัย
  • รอย อีแวนส์ เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 31 มกราคม 1994 ถึง 12 พฤศจิกายน 1998 พาทีมลงสนาม 226 นัด ชนะ 116 เสมอ 57 แพ้ 53 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลอีเอฟแอล คัพ 1 สมัย
  • เชราร์ อุลลิเยร์ เป็นผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส คุมทีมตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 1998 ถึง 24 พฤษภาคม 2004 พาทีมลงสนาม 325 นัด ชนะ 165 เสมอ 81 แพ้ 79 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ 1 สมัย, อีเอฟแอล คัพ 2 สมัย, คอมมิวนิตี้ ชืลด์ 1 สมัย, ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 1 สมัย และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย
  • ราฟาเอล เบนิเตช เป็นผู้จัดการทีมชาวสเปน คุมทีมตั้งแต่ 16 มิถุนา 2004 ถึง 3 มิถุนายน 2010 พาทีมลงสนาม 350 นัด ชนะ 194 เสมอ 77 แพ้ 79 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ 1 สมัย, คอมมินิตี้ ชิลด์ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย
  • รอย ฮอดจ์สัน เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คุมทีมตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2010 ถึง 8 มกราคม 2011 พาทีมลงสนาม 31 นัด ชนะ 13 เสมอ 9 แพ้ 9 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ –
  • เคนนี่ ดัลกริช เป็นผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ คุมทีมตั้งแต่ 8 มกราคม 2011 ถึง 16 พฤศจิกายน 2012 พาทีมลงสนาม 74 นัด ชนะ 35 เสมอ 17 แพ้ 22 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลอีเอฟแอล คัพ 1 สมัย
  • เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นผู้จัดการทีมชาวไอแลนด์เหนือ คุมทีมตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2012 ถึง 4 ตุลาคม 2015 พาทีมลงสนาม 166 นัด ชนะ 83 เสมอ 41 แพ้ 42 เกียรติประวัติคว้าแชมป์ –
  • เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน คุมทีมตั้งแต่ 8 ตุลาคม 2015 ถึง ปัจจุบัน เกียรติประวัติคว้าแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมดปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์ คัพ 1 สมัย และชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย

นักเตะในตำนานของสโมสร ลิเวอร์พูล

นักเตะในตำนานของสโมสร ลิเวอร์พูล
  • บรูซ กร็อบเบลาร์ 
  • มาร์ค ลอว์เรนสัน 
  • อลัน ฮันเซ่น 
  • เคนนี่ ดัลกลิช 
  • เควิน คีแกน 
  • สตีเว่น เจอร์ราร์ด
  • แซมูเอล ลี 
  • จิมมี่ โรเบิร์ต เคส
  • เอียน รัช 
  • สตีฟ ไฮเวย์
  • ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 
  • ไมเคิ่ล โอเว่น 
  • จอห์น บาร์นส์
  • แกรม ซูเนสส์ 
  • สตีฟ แม็คมานามาน
  • แยน โมลบี้

นักเตะยุคปัจจุบันของสโมสร ลิเวอร์พูล

นักเตะยุคปัจจุบันของสโมสร ลิเวอร์พูล
  • อลิสซง เบ็คเกอร์
  • โลริส คารีอูส
  • คีวีน เคลลิเฮอร์
  • เวอร์จิล ฟาน
  • อิบราฮิมา โคนาเต้
  • โจ โกเมซ น้ำหนัก
  • คอสตาส ซิมิกาส
  • แอนดี้ โรเบิร์ตสัน
  • โจเอล มาติป
  • รีส วิลเลียมส์
  • เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
  • ติอาโก้ อัลคันทารา
  • เจมส์ มิลเนอร์
  • นาบี เกอิต้า
  • จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
  • อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์แลน
  • เคอร์ติส โจนส์
  • โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
  • โมฮาเหม็ด ซาลาห์
  • ดิโอโก้ โจต้า
  • หลุยส์ ดิอาซ
  • ดาร์วิน นูเญซ

คู่แข่งของทีม ลิเวอร์พูล

เอฟเวอร์ตัน
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เอฟเวอร์ตัน

คู่แข่งของลิเวอร์พูลที่แข่งขันด้วยกันยาวนานที่สุดก็คือเอฟเวอร์ตัน โดยเรียกการแข่งขันนี้ว่าเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี จุดเริ่มต้นของการเป็นคู่แข่งนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่การก่อตั้งของลิเวอร์พูลและข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการของเอฟเวอร์ตันกับเจ้าของแอนฟีลด์ เป็นหนึ่งในดาร์บีท้องถิ่นที่ไม่มีการบังคับแบ่งแยกผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย จึงเป็นที่รู้จักในฐานะ “ดาร์บีมิตรภาพ” แต่ต่อมาการแข่งขันก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในสนามและนอกสนาม โดยเฉพาะตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 1992 เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีเป็นการแข่งขันที่มีผู้เล่นได้รับใบแดงและถูกไล่ออกจากสนามมากกว่านัดการแข่งขันอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็น “การแข่งขันที่ไร้กติกาและเดือดที่สุดในพรีเมียร์ลีก”

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

โดยปัญหาเริ่มจากลิเวอร์พูลเป็นเมืองท่า และแมนยูเป็นเมืองอุตสาหกรรมจึงต้องส่งออกนำเข้าผ่านลิเวอร์พูล ต่อมาแมนยูคิดว่าไม่คุ้มจึงขุดทางเรือของตัวเอง ทำให้มีปัญหามาตั้งแต่ตอนนั้น และเวลาผ่านไปทั้งสองสโมสรก็ขึ้นแท่นเป็นทีมจากอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเริ่มพูดถึงเรื่องของการแย่งผลประโยชน์กัน และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน

ผลงานล่าสุดของทีมลิเวอร์พูล

หากจะพูดถึงเรื่องผลงานล่าสุดในตอนนี้ คงจะไม่พ้นการแข่งขันกระชับมิตรที่เกิดขึ้นครั้งแรกในเอเชียอย่าง การแข่งขันของ แมนยู VS ลิเวอร์พูล ในไทยที่เพิ่งจบการแข่งขันไปโดยที่ทีมแมนยูไล่ถล่มลิเวอร์พูลไปถึง 4 – 0 โดยเป็นการกระชับมิตรแมตซ์แรกของฤดูกาลที่จะถึงนี้อีกด้วย สร้างความเจ็บช้ำให้กับแฟนลิเวอร์พูลชาวไทยบางส่วนเป็นอย่างมาก แต่หากพูดถึงผลงานในฤดูกาล 2021 – 2022 แล้วเชื่อว่าเหล่าเดอะค็อปจะต้องพอใจในผลงานอย่างแน่นอน ด้วยความที่เข้าชิงบอลถ้วย 3 ถ้วย และชนะมาถึง 2 ถ้วย แม้จะไม่ใช่ถ้วยยูฟ่าก็ตาม แต่ก็เป็นถ้วยในประเทศอย่าง คาราบาว คัฟ และเอฟเอคัฟ และพลาดแชมป์พรีเมียร์ลีกที่เหล่าแฟนบอลคาดหวังไปเพียง 1 แต้มเท่านั้น แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เพราะทีมได้มาถึง 2 แชมป์ จาก 4 ถ้วยที่ลงแข่ง

7 เหตุผลที่เหล่าเดอะค็อปเชียร์ลิเวอร์พูล

1. ลิเวอร์พูล เป็นทีม ที่เล่นมีสไตล์ 

ถ้าไม่ย้อนกลับไปในอดีต ว่า หงส์แดง เป็นทีม ที่เล่นฟุตบอลอย่างมีสไตล์ เป็นเครื่องจักรสีแดงถล่มประตู และคว้าถ้วยรางวัลต่างๆ มามากมาย มาถึงยุคผู้จัดการทีมอย่างเจอร์เก้น คลอปป์ ก็ได้ทำให้หงส์แดงเป็นเฮฟวี่ เมทัล ฟุตบอลคือ เล่นฟุตบอลแบบเร้าใจ คล้ายดนตรีเพลงร็อค ซึ่งเป็นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยไม่ต้องพึ่งพานักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็สามารถทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้

2. ไม่ถอดใจเมื่อไม่หมดเวลา

 ผลการแข่งขัน หลายนัดที่ผ่านมาในฤดูกาล 2021-2022 ที่จบลงด้วยการพลิกกลับมาชนะของหงส์แดง พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และยืดหยุ่นในแผนการรุก เพื่อเอาชัย บวกกับหัวใจที่มีวินัยในเกมของนักเตะที่ไม่ยอมถอดใจเมื่อไม่หมดเวลา ทำให้หงส์แดง กลายเป็นทีมที่ตายยากและพลิกกลับมาชนะคู่แข่งได้ ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ 

3. แฟนบอลที่มีความอดทนสูง 

หากตั้งคำถามเป็นเรื่องหัวใจที่ให้ใครสักคนรักมั่นต่อใครในเวลาที่ยาวนานกว่า 30 ปี โดยไม่มีเปลี่ยนใจ ก็จะต้องใช้ความอดทนที่สูงมากและแฟนบอลหงส์แดงก็เป็นเช่นนั้น มีความอดทนสูง ที่จะรอคอยเห็นความสำเร็จของทีมรักอดทนต่อคำล้อเลียนต่างๆ ที่หยอกล้อกันว่าหงส์แดงเป็นแชมป์ว่าว ไม่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดมากว่า 30 ปี สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นแฟนทีมหงส์แดง ต้องอดทน

4. คนเป็นโรคหัวใจ ต้องไม่ดูถ่ายทอดสด 

อย่างที่รู้กันคือ หงส์แดงในปี 2021-2022 มีเกมการแข่งขันมากมาย และในหลายนัดการแข่งขัน ก็พลิกกลับมาเอาชนะคู่แข่งได้แบบชนิดลุ้นกันหัวใจแทบวาย ในช่วงท้ายเกม สำหรับแฟนบอลหงส์แดงที่หัวใจไม่แข็งแรง แนะนำให้รอรับทราบผลการแข่งขันไม่แนะนำให้ดูการถ่ายทอดสด เพราะเกมการแข่งขันมันบีบหัวใจ ตามสไตล์เฮฟวี่ เมทัล ฟุตบอลที่เน้นผลการแข่งขันมากกว่ารูปแบบการเล่นที่สวยงามสิ่งนี้จึงกลายเป็นมนต์เสน่ห์ของทีมหงส์แดงที่ทำให้แฟนบอลตกหลุมรัก

5. การสร้างทีมให้สมดุล ก่อนถึงยุค 2022

หงส์แดงประสบกับปัญหาทีมไม่สมดุลทั้งเกมรับที่มีปัญหาหนักและเกมรุกที่มืดบอดไประยะหนึ่ง เมื่อเจอร์เก้น คลอปป์ มองเห็นปัญหาของทีมก็ทำการปรับเปลี่ยนผู้เล่นในเกมรับที่ได้ผู้รักษาประตูและกองหลังชั้นยอดอย่างฟานไดฟ์ มาสร้างสมดุลให้กับทีมบวกกับกลยุทธ์ในการปลุกปั้น กำลังใจ ใช้จิตวิทยาในการปลุกใจให้นักเตะวิ่งสู้ฟัดในสนามจนทำให้ทีมมีระบบการเล่นและมีความสมดุลลงตัวโดยจะจับใครลงเล่นก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบทีมได้ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นหัวใจของความสำเร็จในระยะยาว

6. โปรดักชั่นการตลาดยอดเยี่ยม 

ต้องเข้าใจว่าฟุตบอลนอกจากเป็นเกมกีฬาก็ได้กลายเป็นธุรกิจไปด้วยแล้ว ในฐานะการตลาดทางกีฬา หงส์แดง กลายเป็นทีมที่มีรายได้จากการทำคอนเท้นต์ผ่านยูทูปมากกว่า 6 ล้านเหรียญต่อเดือน ซึ่งนี่คือผลของการผลิตคอนเท้นต์ ที่เป็นวิดีโอผ่านสื่อออนไลน์ทำให้แฟนบอลเกิดการอัพเดตที่จะรับข้อมูลข่าวสารของทีมรัก ด้ทันสมัยและมีความสวยงาม ตามมุมมองที่หลากหลาย

7. เมื่อรักแล้ว เปลี่ยนใจยาก 

เชื่อว่าเมื่อได้ลงหัวใจรักอะไรไปแล้วหากไม่มีเหตุขัดข้องหมองใจ จนทำให้เกิดความชิงชังอย่างไร้เหตุผล เชื่อว่าแฟนฟุตบอลทุกทีมก็รักทีมของตนเองอย่างเหนียวแน่และยากจะเปลี่ยนใจ โดยเฉพาะทีมหงส์แดงที่กำลังก้าวสู่ยุครุ่งโรจน์ในทศวรรษนี้ และยิ่งสไตล์การเล่นของทีมมีความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนจากการพัฒนาของทุกฝ่ายในสโมสรด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ยากจะหาเหตุผลเปลี่ยนใจที่จะไม่รักทีมนี้ไม่ได้เลย